หนังสือ

ยินดีต้อนรับ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมครับ จาก อภิชาติ จองตะนะ

หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีการตั้งค่า Keyboard ภาษาไทยใน Windows 7

วิธีการตั้งค่า Keyboard ภาษาไทยใน Windows 7 








     บทความนี้ผมจะแนำการตั้งค่าและเพิ่ม Keyboard ภาษาไทยใน Windows 7 ครับ ทำเป้นขั้นตอนแบบ Step By Step เหมาะสำหรับมือใหม่ครับ
มาดูวิธีทำกันเลยครับ
วิธีการตั้งค่า Keyboard ภาษาไทยใน Windows 7
- เข้าไปที่ Start >> Control Panel
- กดเลือก Clock, Language and Region
- เลือก Region and Language
เริ่มจากการตั้งค่า Keyboard ภาษาไทยครับ- เลือกแท๊บ Keyboard and Language กดปุ่ม Change Keyboards
- กดปุ่ม Add เพื่อเพิ่มภาษาครับ
- เลือกไปที่ Thai(Thailand) >> Keyboard แล้วติ๊กเลือก Thai Kedmanee เสร็จแล้วกด OK ครับ
- ถ้าทำถูกแล้วจะได้แบบนี้ครับ
-  ต่อไปตั้งค่าปุ่มตัวหนอน สำหรับการเปลี่ยนภาษาครับ
กดไปที่แท๊บ Advanced Key Setting จากนั้นกดปุ่ม Change Key Sequence
- ในช่องแรก ให้เลือก Grave Accent (ส่วนช่องด้านหลังไม่ต้องเลือกครับ ) กด OK
- ถ้าได้ผลแบบในรูป ก็เสร็จแล้วครับ
- ทดลองเปลี่ยน Keyboard โดยการกดปุ่มตัวหนอน หรือจะลองกดดูที่ Taskbar ก็ได้ครับ
เครดิตที่มาhttp://notebook-lookup.com/forum/forum.php?mod=viewthread&tid=161

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีเปลี่ยนเมนูคำสั่งต่างๆเป็นภาษาไทยในวินโดว์7

จอฟ้าที่รักเตือนคอม

   หลังจากลงโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ๆของวิน7ที่รองรับสำหรับวินโดว์8ได้ด้วย ลงไว้หลายตัวจู่ๆสิ่งที่ไม่ค่อยเกิดก็เจอ คือจอฟ้าที่รัก มันมาแล้วมันเตือนคอมเราแล้วว่าเล่นลงโปรแกรมกับยาแก้ไอ เยอะไปหน่อย ก็เลยลองแก้โดยการ กู้คืนระบบกลับย้อนไป ก็หายไปพักหนึ่ง ตั้งใจว่าถ้ามาอีกรอบก็จะลงวินโดว์ใหม่ซะเลย จะได้ซ้อมมือลงวินโดว์เองบ่อยๆกลัวลืมซะก่อน สำหรับจอฟ้าที่รัก  ก็เลยไปเจอเวปนี้ขออนุญาติก๊อบไว้กันลืมนะครับ พร้อมกับลงเครดิตที่มา ตามมารยาทที่ดีครับ
  จอฟ้า ที่รัก
ตามบทความข้างล่างนี้เลยครับคำว่า Blue Screen คนเล่นคอม จะรู้จักดีและเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวไม่อยากให้เกิดกับเครื่องของตน เพราะถ้าเกิดนั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคอมของตนเริ่มมีปัญหา แต่ที่น่าเจ็บใจคือมันบอกเป็นเลขรหัสที่เราๆ ท่านๆ ต้องงงเพราะไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร และจะมีทางแก้ไขอย่างไร ผมไปอ่านเจอมาว่าแต่ละตัวมีความหมายอย่างไร ก็ลองแปลมาให้คุณๆ ได้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้บ้าง รหัสที่แจ้งของ Blue Screen จริงๆมีเกินร้อยตัว

    1.(stop code 0X000000BE) Attempted Write To Readonly Memory
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไขให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ

    2.(stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
    ตัว นี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไขก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะครับ เดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส

    3.(stop code 0X0000002E) Data Bus Error
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์ดแวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม ,cache L2 ของซีพียู , เมมโมรีของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย

    4.(stop code 0X000000D1)Driver IRQL Not Less Or Equal
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1

    5. (stop code 0X0000009F)Driver Power State Failure
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ"hibernate" แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดวส์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดวส์ซะ

    6.(stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดวส์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1

    7.(stop code 0X000000F2)Hardware Interrupt Storm สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
    อาการ ที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1

    8.(stop code 0X0000007B)Inaccessible Boot Device
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
    อาการ นี้จะมักเจอตอนบูตวินโดวส์ จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรือ boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบmulti OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน config ของ OS ขัดแย้งกัน

    อีกกรณี หนึ่งที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดวส์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดวส์ เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์เวอร์รุ่นล่าสุด

    9. (stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Errorสาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดวส์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจากฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย

    10. (stop code 0X00000077) Kernel Stack Inpage Errorสาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการและสาเหตุเดียวกับข้อ 9

    11. (stop code 0X0000001E) Kmode Exception Not Handled
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น

    ถ้ามีการ แจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดวส์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่

    Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ


    12. (stop code 0X00000079)Mismatched Halสาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ว่าแอปพลิเคชั่น ตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดวส์ใหม่

    สาเหตุ อีกประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไฟล์ที่เสีย

    13. (stop code 0X0000003F)No More System PTEs
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดวส์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดวส์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors

    ถ้าคุณเกิดปัญหานี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
    1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
    2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSession ManagerMemory Management
    3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
    4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM
    128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK
    รีสตาร์ทเครื่อง


    14. (stop code 0X00000024) NTFS File Systemสาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้สาเหตุเกิดจากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตูนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆสามารถทราบรายละเอียดของerror นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application

    15. (stop code 0X00000050)Page Fault In Nonpaged Areaสาเหตุและแนวทางแก้ไข:
    อาการ นี้สาเหตุการจากการผิดพลาดของการเขียนข้อมูลในแรม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรมหรือลองสลับแรมดูหรือไม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสียหรือไม่


    16. (stop code 0Xc0000221)Status Image Checksum Mismatchสาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15

    17. (stop code 0X000000EA) Thread Stuck In Device Driver
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ ของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตร์ทตลอด หรือแจ้งerror อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้

    1.ให้ดูที่ power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณหรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไปไม่เหมาะกับ power supply ของคุณ ก็ให้เปลื่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปัญหานี้ผมเคยมีประสพการณ์แล้ว 2 ครั้ง คือ
    2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแน่ใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อนที่จะเกิดปัญหา
    3. ตรวจดูการ์ดจอและเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นสวนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
    4. ดูที่ bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปกของการ์ดหรือไม่
    5. เช็คดูที่ผู้ผลิตเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่หรือไม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
    6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น "PXE Resume/Remote Wake Up" โดยไปปิดที่ BIOS

    18. (stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap

    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ นี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก overclock (ผมก็คนหนึ่ง) เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด

    19. (stop code 0X000000ED)Unmountable Boot Volume
    สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

    อาการ ที่วินโดวส์หาฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึ่งในนั้นคุณอาจใช้สายแพของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน

    ลองดูน่ะครับ

    credit : http://cyberman.blogth.com/1714/%C3%C7%C1%E2%A4%E9%B4%BB%D1%AD%CB%D2%A8%CD%BF%E9%D2+%28Blue+Screen%29+%A8%D0%E4%B4%E9%CB%D2%B7%D2%A7%E1%A1%E9%B6%D9%A1%B7%D2%A7%A4%C3%D1%BA.html

    ไม่รุว่าเจ้าของบทความคือใครโทดที



    ออฟไลน์adabee

    • Ju
    • *
    • กระทู้: 4
    • เห็นด้วย&ขอบคุณ: 2
      Re: จอฟ้า
      « ตอบกลับ #4 เมื่อ: 06, มีนาคม 2010, 04:30:55 AM »
      บทความเสริมอ่ะครับ

      credit : http://blog.rmutk.ac.th/blog/2009/10/21/28/

      จอฟ้ามหาภัย ฝันร้ายของเหล่า User

      วัน หนึ่ง ๆ คุณใช้คอมพิวเตอร์ทำเรื่องต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่ อยู่มาวันหนึ่งเครื่องที่คุณใช้งานอยู่ดี ๆ จู่ ๆ มันก็ขึ้นจอสีฟ้าที่เต็มไปด้วยเลขอะไรก็ไม่รู้ซะได้ จะเรียกว่าภัยพิบัติมาเยือนก็คงจะได้สำหรับหลาย ๆ คนเพราะมันมีความหมายว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้อำลาไปสวรรค์เสียแล้ว จะทำยังไงดีกับข้อมูลที่อยู่ข้างในล่ะทีนี้มีแต่ของสำคัญทั้งนั้นเลยด้วย

      Blue Screen คืออะไร?

      “Blue Screen of Death” “จอฟ้ามรณะ” “มฤตยูจอฟ้า” หรือ “จอฟ้าแห่งความตาย” ไม่ว่าจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ตามใจชอบ แต่ไอ้เจ้า Blue Screen นั้นมันก็คือสิ่งที่ไม่มีใครพึงประสงค์อยากเจอมากที่สุด เชื่อแน่ ว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนไม่ว่าจะมือใหม่ มือฉมวก หรือมือฉมัง ก็จะต้องเคยเจอกับอาการแบบนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าเป็นมือใหม่หัดขับก็อาจถึงกับลนลานรีบต่อสายตรงหาช่างเทคนิคกันให้วุ่น เลยทีเดียว แต่ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันอาจไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงอย่างที่คิดเลยก็ได้

      Blue Screen ก็คือ หน้าจอที่ทำหน้าที่แจ้งอาการผิดปกติของระบบปฏิบัติการ Windows นั่นเองซึ่งอาการที่จะทำให้เกิดหน้าจอมหาประลัยนี้ก็เกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ทั้งด้านซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ก็ได้ แต่บางทีก็เกิดมันพร้อม ๆ กันเลยก็มี เหตุที่ใคร ๆ เขาตั้งชื่อเจ้า Blue Screen ให้มันน่ากลัวขนาดนี้ก็เพราะถ้าหน้าจอสีฟ้านี้แสดงขึ้นมามันหมายความว่า อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นค่อนข้างหนักหนาจน Windows ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ นอกจากรีเซ็ตเครื่องเพียงอย่างเดียว ซึ่งเมื่อทำการรีเซ็ตเครื่องหลังจากขึ้น Blue Screen แล้วก็สามารถใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อได้แต่ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหมด ไปเพราะวันดีคืนดีไอ้เจ้าหน้าจอมรณะก็อาจจะกลับมาหลอกหลอนกันอีกก็ได้เพราะ สาเหตุของปัญหายังไม่ได้ถูกแก้ไขแต่บางกรณีแค่บูสเครื่องก็ไปไม่รอดแล้ว

      ถ้าจะถามว่าทำไมถึงได้เกิด Blue Screen ได้ทั้ง ๆ ที่ใช้งานมาตั้งนานยังไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย? คำตอบของปัญหานี้จะไปโทษระบบปฏิบัติการเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ได้เพราะการ ทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เป็น หลัก ฮาร์ดแวร์ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์คอยควบคุมจัดการอยู่แล้วล่ะก็มันก็ไม่ต่าง จากกล่องเหล็กไร้ประโยชน์ ในทางกลับกันถ้าซอฟต์แวร์ไม่มีฮาร์ดแวร์คอยรองรับคำสั่งแล้วก็ไม่ต่างอะไร จากเจ้านายที่ปราศจากลูกน้องมาคอยรับคำสั่งแล้วปฏิบัติงานตามคำสั่งเหล่า นั้นมันจำเป็นจะต้องอยู่เป็นคู่กันปานกาแฟกับคอฟฟี่เมต

      แล้วทำไมหน้าจอฟ้าถึงพบบ่อยนักในระบบปฏิบัติการ Windows ทุกยุค ทุกสมัย เหตุผลก็เพราะ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่จำเป็นต้องออกแบบให้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ให้ได้หลากหลายที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องความนิยม ใช้แตกต่างจาก Unix หรือ Mac OS ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างง่าย ๆ แค่เมนบอร์ดที่ใช้กันในปัจจุบันก็มีมากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เข้าไปแล้ว ยังไม่นับรวมการ์ดต่าง ๆ รวมไปถึงของใช้งานกระจุกกระจิกอย่างพวกกล้องเว็บแคมหรือปริ๊นเตอร์เลย ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าเกิดปัญหาเรื่องความไม่เข้ากันเมื่อไหร่ทูตมรณะจอฟ้าก็จะมาเยือน คุณทันที

      ใน Windows NT, 2000 และ XP นั้นอาการจอฟ้า หรือ Blue Screen ที่เกิดขึ้น มักเกิดมาจากเคอร์แนล (Kernel )หรือไดร์ฟเวอร์ (Driver) ที่เกิดทำงานผิดพลาดโดยที่ไม่สามารถจะคืนสภาพการทำงานให้กลับมาเหมือนเดิม ได้ เช่น ไดร์ฟเวอร์ส่งค่าบางอย่างที่ไม่ถูกต้องไปยังกระบวนการอื่นๆ ทำให้ตัวระบบปฏิบัติการทำงานผิดพลาด วิธีเดียวที่ผู้ใช้จะแก้ไขได้ คือ รีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ (Reboot) ซึ่งนั่นหมายความว่า ข้อมูลหรืองานที่คุณกำลังทำอยู่มีโอกาสที่จะหายไปด้วยเพราะ Windows ไม่ได้ถูกสั่งปิดแบบปกติการพิจารณาแก้ปัญหาจอฟ้าเราสามารถดูได้จากข้อความ และ Error Code ที่แสดงออกมาบางปัญหาวินโดวส์จะแสดงข้อความที่เป็นสาเหตุอย่างชัดเจน แต่บางปัญหาก็ไม่สามารถอาศัยข้อความที่แสดงเพียงอย่างเดียว ต้องนำเอา Error Code มาร่วมพิจารณาด้วย Error Code ที่พบบ่อย ๆ ในระบบปฏิบัติการ Windows ก็จะมีดังต่อไปนี้

      Error Code : Stop 0×0000000A

      หมายความว่า เคอร์แนลโหมดโปรเซส (Kernel-mode process) หรือ ไดร์ฟเวอร์ (driver) นั้นไม่สามารถจะเข้าถึง เมโมรี่ (memory) ที่จองไว้ได้ อาจจะมีสาเหตุเพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึง หรือค่าที่เคอร์แนลในระดับ IRQL นั้นอยู่สูงเกินไป แต่เคอร์แนลโหมดโปรเซสที่มีค่า IRQL ต่ำกว่าสามารถเข้าถึงหน่วยความจำนั้นได้ โดยส่วนมาก Stop Message นี้มักจะมาจากการการเข้ากันไม่ได้ของฮาร์ดแวร์หรือซอฟท์แวร์ที่อยู่ใน เครื่องนั่นเอง

      ในส่วนของซอฟท์แวร์อาจเกิดหลังการติดตั้ง ดีไวท์ไดร์ฟเวอร์ (device driver) , ซิสเต็มเซอร์วิส (system service) หรือ เฟิร์มแวร์ (Firmware) ที่เสียหายหรือไม่สมบูรณ์ หาก Stop Message นั้นแสดงชื่อไดร์ฟเวอร์ที่ผิดพลาดมาด้วยก็ให้แก้ไขโดยการยกเลิกหรือโรลแบ็ค (rollback) กลับไปใช้ไดร์ฟเวอร์ที่สมบูรณ์ก่อน หรือหากยังแก้ไขไม่ได้อาจจะเป็นที่ไฟล์ที่ใช้ในการติดตั้งไดร์ฟเวอร์เกิด เสียหาย เพราะไวรัสก็ได้ ในส่วนของฮาร์ดแวร์หากเออเรอร์นี้จะแจ้งประเภทของอุปกรณ์ (Device) ที่มีปัญหามาให้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น กราฟิกการ์ดหรือไดรฟ์ ก็ให้ลองปลดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ Error Message แจ้งมาอาจจะช่วยแก้ปัญหาได้

      Error Code : 0×0000001E

      ค่า 0×1E เป็นเครื่องบ่งบอกว่าได้ตรวจสอบพบชุดคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่อาจระบุได้ ปัญหาที่พบจาก 0×1E นั้นใกล้เคียงกับการเกิดขึ้นของ 0xA อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย ที่ ค่า 0xA เกิดจากการใช้งานผิดพลาดที่หน่วยความจำ แต่ เจ้า 0×1E นั้น เป็นการผิดพลาดจากชุดคำสั่ง โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นหลังจากติดตั้งไดร์ฟเวอร์(driver) หรือ ซิสเต็มเซอร์วิส (system service) ที่ผิดพลาด หรือเกิดจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งลงไปใหม่นั้นทำให้เกิดการขัดแย้งหรือแย่งกัน ใช้งานค่าบางอย่าง เช่น หน่วยความจำหรือ IRQ ( memory or IRQ conflicts) ถ้าเกิดความผิดพลาดในส่วนนี้ที่จอฟ้าจะแสดงรายละเอียดของชื่อไดร์ฟเวอร์ที่ มีปัญหาขึ้นมา ให้เราลองหยุดใช้หรือถอดถอนไดร์ฟเวอร์ตัวนี้ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือ อาจจะเป็นที่ไฟล์ไดร์ฟเวอร์ที่ติดตั้งนั้นเสียหายจากไวรัส เป็นต้น

      แต่ถ้าหากในข้อความบนจอฟ้านั้นได้อ้างถึงไฟล์ชื่อ Win32k.sys อาจจะเกิดจากมีการติดตั้งไฟล์ตัวนี้มาแทนที่จากโปรแกรมอื่น ๆ วิธีแก้ก็ลองให้พยายามยกเลิกซิสเต็มเซอร์วิส นี้ โดยการเข้าไปใน Safe Mode แต่หากยังแก้ไขไม่ได้ คงต้องใช้งาน รีโคฟเวอร์รี่คอนโซล (Recovery Console) เพื่อลบไฟล์ซิสเต็มเซอร์วิสที่สร้างปัญหานั้นทิ้งเสีย แต่ยบางทีปัญหานี้ก็อาจจะเกิดมาจากอัพเดทไบออส (Update Bios) ที่เข้ากันได้ไม่สมบูรณ์ เช่นไบออสที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานพลังงาน (ACPI) ให้ลองแก้ไขโดยการกลับไปใช้ไบออสตัวเก่าหรือหาตัวที่สมบูรณ์กว่านี้

      อีกสาเหตุหนึ่ง อาจมาจากพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) ไม่เพียงพอต่อการติดตั้งโปรแกรม ซึ่งถ้าเกิดจากสาเหตุนี้แก้ได้ง่าย ๆ เพียงแต่จัดสรรหรือบริหารพื้นที่ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน เช่น การลบ เทมโพรารี่ไฟล์ (Temporary File) ทิ้งเสีย (พวกไฟล์นามสกุล .tmp) พวกอินเตอร์เน็ตแคชไฟล์ (Internet Cache files) หรือ ไฟล์ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วก็กลับไปติดตั้งโปรแกรมที่ต้องการต่อได้ หรืออีกสาเหตุหนึ่งก็คือหน่วยความจำไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากโปรแกรมหรือเซอร์วิสบางตัวนำหน่วยความจำไปใช้งานแล้วไม่ยอมคืน หน่วยความจำกลับมา ให้คุณใช้ยูทิลิตี้ (Utility) ที่ชื่อว่า Poolmon (Poolmon.exe) มาช่วยเหลือ (อยู่ในไดเรกทอรี \Support\Tools\ของแผ่นติดตั้ง Windows XP) เจ้าตัวนี้สามารถช่วยคุณตรวจสอบว่าโปรแกรมตัวไหนนำหน่วยความจำไปใช้ และไม่ยอมคืนบ้าง เมื่อเจอแล้ว คุณอาจต้องถอนการติดตั้งโปรแกรมนั้นเสีย

      Error Code : 0×00000024

      0×24 บ่งบอกถึงปัญที่เกิดขึ้นจากไฟล์ Ntfs.sys ซึ่งเป็นไดร์ฟเวอร์ (driver) ที่ใช้ในการอนุญาตให้ระบบสามารถอ่านและเขียนระบบไฟล์ซิสเต็ม (File System) แบบ NTFS มีความผิดปกติอาจเกิดจากการทำงานผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ SCSI หรือ ATA หรือไดร์ฟเวอร์ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์จำพวกนี้ ทำให้เกิดความผิดพลาดในการอ่านหรือเขียนข้อมูลในฮาร์ดดิสมีปัญหา ซึ่งถ้าคุณใช้งานฮาร์ดแบบ SCSI ให้ตรวจสอบที่รายละเอียดในส่วนของสายเชื่อมต่อ หรือจุดเชื่อมต่อต่างๆ และลองตรวจสอบที่อีเวนท์วิวเวอร์ (Event Viewer) เพื่อตรวจหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ ดังกล่าว

      โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบที่ใช้ในการตรวจสอบระบบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันไวรัส (Anti-virus) หรือระบบแบ็คอัพ (Backup) ที่ใช้งานทำงานเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับระบบปฏิบัติการหลังจากนั้นให้ลอง ตรวจสอบกับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน บางชิ้นนั้นจะให้มากับเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของมันได้ เช่น Diagnostic Tool หากไม่มีเครื่องมือจำพวกนี้มาให้ เราก็สามารถตรวจสอบได้จากเครื่องมือของ Windows ที่ให้ซึ่งมี 2 วิธีดังนี้ (ควรทำใน Safe Mode)

      วิธีที่ 1

      1. ในช่อง Run ให้พิมพ์คำว่า “cmd”
      2. ให้เริ่มต้นใช้งานเครื่องมือ Chkdsk, และใส่พารามิเตอร์เพื่อตรวจสอบความผิดพลาดของไฟล์โดยพิมพ์

      คำสั่ง ว่า “chkdsk [drive:] /f” (drive: คือชื่อไดรฟ์ที่คุณต้องการตรวจสอบ เช่น C: D: E: หรือ F: เป็นต้น)

      ข้อควรระวัง ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานระบบ NTFS ไฟล์ที่มีการตั้งชื่อยาวกว่า 8 ตัว อักษร อาจจะเกิดการสูญหายไปจากฮาร์ดดิสก์ได้ หลังจากการตรวจสอบด้วยวิธีนี้

      วิธีที่ 2

      1. ดับเบิลคลิ้กที่ My computer และเลือกไปที่ฮาร์ดดิสก์ที่ต้องการจะตรวจเช็ค
      2. ที่หัวข้อ “File” บนเมนูบาร์ให้เลือกที่ Properties
      3. เลือกแท็บที่เขียนว่า Tools
      4. ให้เช็คที่ช่องที่เขียนว่า Error-checking box
      5. ในหัวข้อเช็ค Check disk options ให้เลือกที่ Scan for and attempt recovery for and sectors หรือ จะเลือกที่ automatically fix file system error ด้วยจะยอดเยี่ยมมาก

      อีกสาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากปัญหา Nonpage pool memory ในหน่วยความนำในระบบหมดสิ้นอย่างสิ้นเชิง สาเหตุนี้สามารถแก้ได้อย่างง่ายดายโดยการไปซื้อ RAM มาเพิ่มแค่นั้นเองแหละ

      Error Code : 0×0000002E

      0×2E บ่งบอกถึงระบบตรวจสอบหน่วยความจำมีความผิดพลาด ซึ่งอาจจะเกิดมาจากความผิดพลาดในส่วนของการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล (ECC) หน่วยความจำในที่นี้รวมไปถึงหน่วยความจำหลักบนเมนบอร์ด (Mainboard), แคชแอลทู (Cache L2) หรือแม้หน่วยความจำในการ์ดแสดงผล (VGA Card) ซึ่งจากสาเหตุที่เกิดขึ้นมาในข้างต้นนั้น ทำให้เกิดกันเข้ากันอย่างไม่สมบูรณ์ หรือความผิดพลาดบางอย่างในตัวอุปกรณ์ หรือดีไวซ์ไดรเวอร์ (device driver) นั้นพยายามจะเข้าถึงหน่วยความจำในตำแหน่งที่มีอยู่จริง ก็ทำให้เกิดอาการจอฟ้าได้ แต่บางที 0×2E ก็สามารถเกิดได้จากความเสียหายของฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) เองได้เหมือนกัน โดยทั่ว ๆ ไปจะเกิดจากการผิดปกติ การทำงานคลาดเคลื่อน หรือการพังของอุปกรณ์หน่วยความจำในระบบ เช่น หน่วยความจำปกติ (RAM) , Cache L2 หรือหน่วยความจำในการ์ดแสดงผล ให้ลองเปลี่ยนอุปกรณ์ที่อาจจะเกิดความเสียหาย

      บางครั้งความผิดพลาดนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากการที่คุณติดตั้งดีไวซ์ได รเวอร์ที่มีความเสียหาย ถ้าความผิดพลาดนั้นแสดงรายละเอียดของไฟล์หรือชื่อของส่วนที่ทำให้เกิดข้อผิด พลาด ก็ให้แก้ไขด้วยวิธีเดิม ๆ ในข้างต้น คือยกเลิกการใช้งาน หรือถอดถอนทิ้งหรือถอยกลับไปใช้ไดรเวอร์ในรุ่นที่ยังใช้งานได้ดีอยู่ และให้ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเพื่อดูรายระเอียดดีไวซ์ได รเวอร์ที่เข้ากันได้สมบูรณ์กับระบบ

      ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งฟังดูแล้วก็น่าขำแต่ขำไม่ออกก็คือเกิดจากคราบสกปรกที่ เกาะอยู่ตามผิวของอุปกรณ์ที่เมนบอร์ดนั่นเองแหละแต่ถ้าหากตรวจสอบและทำความ สะอาดแล้วยังมีปัญหาอยู่ก็ส่งเครมสถานเดียว

      Error Code : Stop 0×0000003F

      0×3F มักเกิดขึ้นจาก Page Table Entries (PTE) ของระบบเกิดการทำงานผิดพลาดหรือไม่ปะติดปะต่อกัน เมื่อระบบทำงานประมวลผลชุดคำสั่งที่มีการใช้ตัวเลขจำนวนมากในการประมวลผล หรืออาจเกิดจำดีไวซ์ไดรเวอร์ (device driver) ที่ติดตั้งนั้นไม่สามารถบริหารหน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้หรือ อาจเกิดจากโปรแกรมบางตัวจัดสรรหน่วยความจำที่เคอร์แนล (Kernel) ต้องการใช้งานไม่ถูกต้อง

      เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นหลังจากที่คุณติดตั้งไดรเวอร์ที่ไม่สมบูรณ์ ถ้าความผิดพลาดนั้นแสดงรายละเอียดของไฟล์หรือชื่อของส่วนที่ทำให้เกิดข้อผิด พลาด ก็ให้แก้ไขด้วยวิธีเดิม ๆ ในข้างต้น คือการยกเลิกการใช้งานหรือกลับไปใช้ไดรเวอร์ตัวเก่า แต่จริง ๆ แล้ว PTEs นั้นอาจจะเหลืออีกเพียบ แต่ความผิดพลาดนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้อีก เพราะว่าขนาดของ contiguous memory block ที่ไดรเวอร์ (driver) หรือหน่วยความจำต้องใช้งานไม่เพียงพอ วิธีแก้ลองอัพเดทไดรเวอร์ตัวใหม่ที่สมบูรณ์ หรือโปรแกรมเวอร์ชันใหม่ ๆ และให้ลองตรวจสอบจากเอกสารติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวด้วย เกี่ยวกับ Minimum system reqirements ว่าต้องการเท่าใด

      Error Code : 0×00000050

      0×50 เกิดจากการเรียกใช้ข้อมูลซึ่งมิได้อยู่ในหน่วยความจำ ระบบจะรายงานรหัสความผิดพลาดนี้ขึ้นมาเมื่ออ้างถึงค่าบางค่าในเมโมรีแอดเดรส ที่ไม่มีอยู่จริง หน่วยความจำในที่นี้รวมไปถึง L2 Cache และ หน่วยความจำในการ์ดแสดงผลด้วยถ้าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นมาหลังจากคุณติดตั้ง ฮาร์ดแวร์ใหม่เข้าไป ให้ถอดหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ดังกล่าว ถ้าหากพอจะแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ให้รัน Diagnostic tools เพื่อตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในบางส่วนของอุปกรณ์ หรือบางครั้งก็เกิดขึ้นหลังจากคุณได้ติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์ที่เสียหายลงไปใน ระบบของคุณ ให้ลองถอดถอนออกจากระบบ หรือกลับไปใช้ไดรเวอร์ตัวที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหา

      Error : 0×00000077

      0×77 แสดงถึงข้อมูลซึ่งถูกเรียกใช้จากเวอร์ชวลเมโมรี(Virtual Memory) ไม่สามารถหาพบหรืออ่านไปยังหน่วยความจำได้ ในกรณีนี้อาจจะหมายถึงฮาร์ดิสก์มีความเสียหาย หรือข้อมูลได้ถูกทำลาย หรืออาจจะเป็นไปได้ที่จะมีไวรัสอยู่ในระบบ ความผิดพลาดนี้อาจจะเกิดมาจาก Bad Sector หรือดิสก์คอนโทรลเลอร์ (disk controller) มีความผิดพลาด หรือในกรณีที่อาจจะเกิดยากหน่อยก็คือ ค่า Non page pool หมดสิ้นไปจากระบบเลย ก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดนี้ได้เหมือนกัน ถ้าคิดว่ามาจากปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความเสียหายของดิสก์ให้ลองใช้โปรแกรม ” Autochk” เพื่อตรวจสอบ และระบุ Bad Sector ที่เกิดขึ้นบนดิสก์

      อีกกรณีที่ทำให้เกิดความผิดพลาดนึ้อาจมาจากเสียหายของหน่วยความจำที่มี อยู่ในระบบ อาทิ หน่วยความจำหลัก , Cache L2 หรือ หน่วยความจำในการ์ดแสดงผล ให้ลองเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ อาจจะแก้ปัญหาได้หรืออีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากคราบสกปรกที่เกาะอยู่ตามผิว ของอุปกรณ์บนเมนบอร์ดก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน

      Error Code : 0×00000079

      0×79 บ่งบอกถึง hardware abstraction layer (HAL) และชนิดของเคอร์แนล (Kernel) ที่ใช้งานไม่ตรงกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือฮาร์ดแวร์ที่วินโดวส์ (Windows) รู้จักไม่ตรงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง โดยส่วนมากความผิดพลาดนี้มักจะเกิดมาจากค่า ACPI มีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่น การนำ OS ที่เป็นแบบ Multi processor มาใช้งานบนเครื่องที่เป็น Single Processor เป็นต้น

      ความผิดพลาดชนิดนึ้เกิดจากระบบที่ใช้งานไฟล์ Ntoskrnl.exe หรือ Hal.dll ที่เก่าเกินไป ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายๆ โดยการก๊อบปี้ไฟล์ที่ถูกต้องไปทับไฟล์เดิม ซึ่งไฟล์พวกนี้สามารถหาได้จากแผ่นติดตั้งวินโดวส์นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น Windows XP ในบนระบบซิงกิ้ลโปรเซสเซอร์ไฟล์เคอร์แนลจะชื่อ Ntoskrnl.exe แต่บนระบบมัลติโปรเซสเซอร์ ไฟล์เคอร์แนลใช้ชื่อว่า Ntkrnlmp.exe เป็นต้น

      อีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากไบออส (Bios) ไม่ได้กำหนดหมายเลข IRQ ให้กับ ACPI ดังนั้นคุณสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองโดยการกำหนดค่า IRQ ให้เองภายในไบออสภายใต้หัวข้อ ACPI

      Error Code : 0×0000007B

      0×7B หมายถึง Windows XP ไม่สามารถเข้าถึงSystem Partition หรือ Boot Volume ในระหว่างเริ่มต้นกระบวนการทำงาน หรืออาจเกิดจากติดตั้งหรือการอัพเกรดไดรเวอร์ของ Storage Adapter ผิดรุ่นปัญหานี้พบเจอได้บ่อยมากในโน๊ตบุ๊ค (Note Book) รุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการจะใช้ Windows XP เนื่องจากปัจจุบัน Storage Adapter หรือที่เราเรียกกันว่าฮาร์ดดิส (Hard disk) นั้นเป็น SATA ซึ่ง Windows XP นั้นไม่รู้จักจึงมักจะทำให้เกิดความผิดพลาดนี้ขึ้น ให้เราลองตรวจสอบเฟิร์มแวร์ของระบบ ไม่ว่าเป็นของดิสก์คอนโทรลเลอร์ หรือการตั้งค่าไบออส (Bios) ของเมนบอร์ดว่าถูกต้องหรือไม่ หรือในบางกรณี Windows ไม่รู้จักอุปกรณ์ดิสก์คอนโทรลเลอร์นั้นๆ ให้ลองหาไดรเวอร์จากผู้ผลิตหรือจากเว็บไซต์เพื่อนำมาติดตั้ง ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้

      Error Code : Stop 0×0000007F

      0×7F นั้นบ่งบอกถึงปัญหาที่เคอร์แนล (Kernel) ไม่อนุญาตให้เข้าใช้งาน bound trap ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับฮาร์ดแวร์ด้วยส่วนมากมาจากความผิดพลาดหรือล้มเหลวในส่วน ของหน่วยความจำหลัก ถ้าคุณได้ติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เข้าไป ให้ลองถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าว

      นอกจากนี้การโอเวอร์คล็อกซีพียู (Over clock CPU) ก็สามารถทำให้เกิดความผิดพลาดนี้หรือความผิดพลาดหมายเลขอื่นๆ ได้ เนื่องจากความร้อนที่สูงขึ้นอาจทำให้ซีพียูทำงานผิดพลาดได้ หากเกิดปัญหานี้ขึ้นสำหรับเครื่องที่โอเวอร์คล็อกให้ลองลดการโอเวอร์คล็อก กลับมาที่ความเร็วซีพียูเดิมก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือมีคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนเมนบอร์ด ถ้ามีควรทำความสะอาดเสียให้เรียบร้อย

      Error Code : 0×000000C2

      0xC2 หมายถึง kernel-mode process หรือไดรเวอร์ (driver ) บางตัว เกิดการใช้งานหน่วยความจำที่ผิดพลาดโดยอาจจะมีสาเหตุมาจากทางใดทางหนึ่งดัง นี้

      • การจัดสรร Memory Pool ที่ขนาด เป็น 0 (ศูนย์)

      • การจัดสรร Memory Pool ที่มีอยู่จริง

      • การสั่งการให้ Memory Pool นั้นเป็น Free memory pool ทั้งที่มันว่างอยู่แล้ว

      • การจัดสรรหรือการสั่งการให้เป็น Free memory pool ที่ค่า IRQL สูงเกินไป

      • ความผิดพลาดของไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน

      ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นหลังจากคุณติดตั้งโปรแกรมหรือไดรเวอร์ที่ไม่ สมบูรณ์ สามารถแก้ไขได้โดยการถอดถอน ส่วนที่ติดตั้งลงไปออกเสีย หรือบางครั้งก็อาจจะเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ก็ได้ ในกรณีที่มีการอ้างอุปกรณ์บางชิ้น ก็ให้ลองเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวนั้นหรือถอดถอนออกอาจจะแก้ไขปัญหาได้

      หรือบางทีก็อาจจะเกิดจากความไม่เข้ากันของไดรเวอร์และซิสเต็มส์เซอร์วิส (System Service) ของเซอร์วิสแพ็ค (Service Pack) ที่ได้ติดตั้งไว้ ให้ลองถอดถอน Third-party Device ก่อนการติดตั้งเซอร์วิสแพ็ค

      Error Code : 0×0000009F

      0×9F บ่งบอกว่าไดรเวอร์บางตัวทำงานไม่ปกติ มักเกิดในกรณีที่วินโดวส์ถูกสั่งให้กลับมาทำงาน หลังจากที่พักในโหมดสแตนบายด์ ซึ่งไดรเวอร์บางอย่างไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ในโหมดปกติ เป็นต้น

      ถ้าหากความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นหลังจากคุณติดตั้งโปรแกรมหรือไดรเวอร์ที่ ไม่สมบูรณ์ลงไปก็สามารถแก้ไขได้โดยการถอดถอนโปรแกรมหรือไดรเวอร์ตัวดังกล่าว ออกเสียก็ใช้ได้

      Error Code : 0×000000ED

      0x ED หมายความว่าเคอร์แนล (Kernel) พยายามเข้าไปเมาท์ Boot Volume แต่ไม่สามารถทำได้ ความผิดพลาดนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่ออัพเกรดวินโดว์ ในเครื่องที่ไม่รองรับหรืออาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับสายเคเบิ้ลที่เชื่อมต่อ ฮาร์ดดิสก็เป็นไปได้ ถ้าคุณใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ ATA66 ขึ้นให้ลองเปลี่ยนจากสายสัญญาณแบบ 40 พิณไปเป็นแบบ 80 พินอาจช่วยแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ควรไปปรับค่าในไบออสของเมนบอร์ดให้ถูกต้องตรงกับชนิดของ ATA ที่ใช้ได้ด้วยอีกวิธีหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาได้ก็คือ ให้ถอดถอนฮาร์ดดิสก์ตัวที่มีปัญหานำไปต่อกับเครื่องที่ใช้ Windows รุ่นเดียวกันแล้วสั่งให้ Scandisk ด้วยเครื่องมือในไดรฟ์พรอเพอร์ตี้ จากนั้นนำ กลับมาต่อที่เครื่องเดิมก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

      Error : 0xC0000221

      0xC0000221 นี้บ่งบอกว่าปัญหาอาจเกิดจากไดรเวอร์ซิสเต็มส์ไฟล์ (driver system file) หรือ ดิสก์ (disk) เกิดความผิดพลาด เช่น เกิดความเสียหายของเพจจิงไฟล์ หรือเกิดความผิดพลาดของหน่วยความจำ เป็นต้น

      วิธีแก้ปัญหานี้ก็แบบเดิม ๆ คือ หากเกิดปัญหาหลังจากติดตั้งไดรเวอร์ใหม่เข้าไป ให้ลองยกเลิกหรือกลับไปใช้ไดรเวอร์(driver ) ตัวเก่า คุณสามารถใช้เมนู Last known good cofiguration (กด F8 ก่อนเข้าวินโดวส์) เพื่อสั่งให้กลับมาสู่สภาวะปกติที่เคยใช้งานได้ หรือลองมองหาเซอร์วิสแพ็ค (Service Pack) หรือฮ็อตฟิกซ์(Hotfix) จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์มาติดตั้งดูถ้าในความผิดพลาดได้บ่งบอกชื่อของไฟล์ มาด้วยให้ลองก๊อบปี้ไฟล์ที่พึ่งได้มาใหม่จากแผ่นติดตั้ง Windows ทับแทนที่ไฟล์เดิมก็น่าจะแก้ปัญหานี้ได้

      Error Code : 0×0000007A

      0×7A แสดงถึงข้อมูลของเคอร์แนล(kernel (page of kernel data)) ไม่สามารถพบได้บนเวอร์ชวลเมโมรี (Virtual Memory) ทำให้ไฟล์ไม่สามารถอ่านไปสู่หน่วยความจำได้หรืออาจจะเกิดจาการที่ดิสก์หรือ ไดรฟ์คอนโทรลเลอร์(drive control) หรือเฟิร์มแวร์(firmware) หรืออุปกรณ์อื่นๆ ใช้งานได้ไม่สมบูรณ์

      โดยทั่วๆไปแล้ว เราจำแนกแยกแยะรายละเอียดของเออเรอร์นี้ได้จากตัวแปลที่สองของเออเรอร์โค้ดยกตัวอย่างเช่น

      • 0xC000009A หรือ STATUS_INSUFFICIENT_RESOURCES หมายความว่า ค่าของ non paged pool ไม่เพียงพอกับความต้องการ

      • 0xC000009C หรือ STATUS_DEVICE_DATA_ERROR หมายความว่า มีการเรียกใช้งาน Bad Block หรือ Bad Sectors บนฮาร์ดดิสก์

      • 0×000009D หรือ STATUS_DEVICE_NOT_CONNECTED หมายความว่า อุปกรณ์บางตัวที่ต้องการเข้าถึงนั้น หายไปจากระบบ น่าจะเป็นได้ว่าไฟไม่เข้า หรือสายเคเบิลที่เอาไว่ต่อกับคอนโทรลเลอร์มีปัญหา (สายหลุดน่ะแหละ) ลองตรวจสอบตรงนี้ดูนะครับ

      • 0xC000016A หรือ STATUS_DISK_OPERATION_FAILED หมายความว่า มีการเรียกใช้งาน Bad Block หรือ Bad Sectors บนฮาร์ดดิสก์

      • 0xC0000185 or STATUS_IO_DEVICE_ERROR หมายถึง เกิดปัญหากับอุปกรณ์ I/O ควรตรวจสอบจุดต่างๆ เช่น หัวเชื่อมต่อสายเคเบิล หรือถ้าใช้การ์ดคอนโทรลเลอร์ลองทำความสะอาดแล้วเสียบใหม่ หรือเป็นไปได้

      ว่ามีอุปกรณ์ 2 ชิ้นกำลังแย่งกันใช้ทรัพยากรเดียวกันภายในเครื่องอยู่ ให้ลองถอด ตัวใดตัวหนึ่งออกก่อน

      ความผิดพลาดในลักษณะนี้ส่วนมากเกิดจากการไปใช้งานเวอร์ชันเมโมรีบนส่วน ที่เป็นแบดเซ็กเตอร์(bad sector) เข้าให้ หรืออาจจะเกิดจากความผิดพลาดของคอนโทรลเลอร์ หรือหน่วยความจำมีปัญหา ให้ลองแก้ไขโดยการรีบูตเครื่อง ถ้าคิดว่ามาจากปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความเสียหายของฮาร์ดดิสก์ให้ลองใช้ โปรแกรม “Autochk” เพื่อตรวจสอบ และระบุแบดเซ็กเตอร์

      อีกกรณีหนึ่ง น่าจะมาจากการทำงานผิดพลาดหรือเกิดความเสียหายของหน่วยความจำที่มีอยู่ใน ระบบ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำหลัก , Cache L2 หรือหน่วยความจำของการ์ดแสดงผล ให้ลองเปลี่ยนหรือถอดอุปกรณ์ที่น่าจะมีปัญหาออก แล้วลองหาซอฟต์แวร์ diagnostics ตรวจสอบอีกที

      ให้ลองตรวจสอบเพื่ออัพเดตเฟิร์มแวร์หรือไดรเวอร์ของอุปกรณ์ประเภทดิสก์ คอนโทรลเลอร์ ซึ่งน่าจะเพิ่มความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ อีกทางหนึ่งให้ลองตรวจสอบกับคู่มือการตั้งค่าของอุปกรณ์ว่าตั้งค่าเหมาะสม หรือไม่ เช่น การตั้งค่า Transfer rate ของแรมที่ต่ำไปหรือสูงไปอาจจะมีผลกระทบกับระบบโดยรวมได้ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ อาจจะเกิดจากสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเมนบอร์ดและลายวงจร ให้ลองทำความสะอาดดูก็จะช่วยได้บ้าง

      Error Code : 0×000000CE

      0xCE บ่งบอกถึงการที่ความผิดพลาดที่ยกเลิกการใช้งานไดรเวอร์(driver) ตัวนั้น ปัญหานี้ไม่ค่อยหนักหนานักเนื่องจากจะมาเป็นเอาตอนที่จะเลิกใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งความผิดพลาดนี้ได้แสดงขึ้นมาหมายความว่าไดรเวอร์และโปรแกรมนั้นๆ อาจจะมีปัญหาแนะนำให้ถอนการติดตั้งไดรเวอร์หรือโปรแกรมนั้นออก แล้วรีบูตเครื่องใหม่ (restart) อีกครั้ง

      Error Code : Stop 0×000000D1

      0xD1 บ่งบอกว่าระบบพยายามที่จะเข้าใช้งานเพจเอเบิ้ลเมมโมรี่ (pageable memory) ที่กำลังใช้งานด้วยเคอร์เนลโปรเซส (kernel process) ที่มี IRQL สูงมากเกินไป ทำให้ไดรเวอร์นั้น ๆ ไม่สามารถใช้งานได้แบบปกติได้ ส่วนมากมาจากไดรเวอร์ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก วิธีแก้ก็ทำได้โดยหากเพิ่งติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์ใหม่ลงไป แล้วทำให้เกิดปัญหา ก็ให้ถอดออกไดรเวอร์ตัวดังกล่าวออก แล้วกลับไปใช้ตัวที่เสถียรจะดีกว่า

      Error Code : 0×000000BE

      0xBE บ่งบอกว่าไดรเวอร์บางตัว กำลังพยายามจะเขียนข้อมูลลงสู่หน่วยความจำที่อ่านได้อย่างเดียว ( ROM:Read-only Memory) ปัญหานี้ส่วนมากเกิดมาจากไดรเวอร์หรือโปรแกรมที่ไม่สมบูรณ์ แก้ไขได้ตามรายละเอียดที่แก้ไขกันบ่อยๆ คือ ให้ ถอนการติดตั้งออก แล้วกลับไปใช้ไดรเวอร์ตัวเก่า ในกรณีที่เป็นโปรแกรมหากต้องการใช้งานจริง ๆ อาจต้องติดต่อกลับไปยังผู้พัฒนา เพื่อขอวิธีแก้ไขจากผู้พัฒนาโดยตรงอีกที

      Error Code : stop code 0X000000F2

      stop code 0X000000F2 บ่งบอกให้รู้ว่า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุมักจะมาจากการลงไดร์ฟเวอร์หรือเฟิร์มแวร์ ที่ไม่สามารถเข้ากันได้ วิธีแก้ก็คล้าย ๆ เดิมคือนำไดร์ฟเวอร์ตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาออกไปด้วยการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆ ที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ

      Error Code : stop code 0X000000EA

      stop code 0X000000EA บ่งบอกถึงเครื่องได้อยู่ในสภาวะการทำงานในแบบวนซ้ำ ๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตาร์ทตลอดหรือไม่ก็แจ้ง error อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุดมักจะเกิดจาก Bug ของโปรแกรมหรือไม่ก็ระบบไฟฟ้าไม่เพียงพอกับความต้องการ หรือบางครั้งก็เกิดเกิดการชำรุดเสียหายจากฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ดหรือการ์ดแสดงผล เป็นต้น

      ความผิดพลาดนี้แก้ไขได้ดังนี้

      * ดูที่ Power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไปไม่เหมาะกับ Power supply ของคุณ ก็ให้เปลื่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น
      * ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแนใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อนที่จะเกิดปัญหา
      * ตรวจดูการ์ดจอและเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นสวนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
      * ดูที่ Bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปคของการ์ดหรือไม่
      * เช็คดูที่ผู้ผลิตเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่หรือไ ม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
      * ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น “PXE Resume/Remote Wake Up” โดยไปปิดที่ BIOS

      สรุปปัญหา Blue Screen

      ปัญหา Blue Screen นั้นส่วนมากนั้นจะเกิดจากการผิดพลาดของดีไวซ์ไดรเวอร์(device driver) หรือการทำงานผิดพลาดอันเนื่องจากมาจากไวรัส เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Blue Screen ควรหมั่นแบ็กอัพค่าคอนฟิก (config) และค่ารีจิสทรี(registry) ของวินโดวส์อยู่เสมอ เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือ System Restore ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องของระบบก่อนลงโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใด ๆ ก็ตามให้คุณสั่ง System Restore เสียก่อน เผื่อว่าเกิดปัญหา Blue Screen คุณยังสามารถเข้าเซฟโหมดแล้วสั่งให้โรลแบ็กระบบกลับมาได้หรือในกรณีสุดท้าย ที่หนักสุดคือ เกิดจากความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์(Hardware) เช่น RAM เสื่อมสภาพ เพาเวอร์ซัพพลายหมดอายุ ฯลฯ ซึ่งอันนี้คงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แนะนำว่าควรลองถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ต้องสงสัยกับเครื่องข้างเคียงก่อน เพื่อสืบหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริงครับ และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นผู้ซ่อมแซมเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านด้วยตัวเอง ก็ตามแต่ถ้าหากว่าคุณเข้าใจความหมายของ Error Code เหล่านี้ คุณก็สามารถบอกจุดที่เสียหายให้กับช่างผู้ทำการซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ ของท่านได้ ซึ่งก็จะช่วยให้การซ่อมแซมนั้นเสร็จเร็วยิ่งขึ้นเพราะช่างไม่ต้องเสียเวลาหา สาเหตุของความผิดปกติเองทั้งหมด

      credit : http://blog.rmutk.ac.th/blog/2009/10/21/28/

      วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556